โรคความดันโลหิตสูงจะเพิ่มความเสี่ยงของท่านในการเกิดโรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูงอาจจะไม่มีอาการเตือนผู้ป่วยหลายรายมาด้วยโรคแทรกซ้อน เช่นโรคหัวใจโต หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เมื่อไรจึงจะเรียกว่าความดันโลหิตสูง
ความดันโลหิตที่วัดได้ (mm Hg)*
ความรุนแรงของความดันโลหิต | Systolic | Diastolic | จะต้องทำอะไร |
ความดันโลหิตปกติ | 120-129 | 80/84 | |
ความดันโลหิตสูงขั้นต้น Prehypertension | 130-139 | 85-89 | ตรวจซ้ำภายใน 1 ปี |
ความดันโลหิตสูงระดับ 1 Stage 1 (mild) | 140-159 | 90-99 | ให้ตรวจวัดความดันอีกใน 2 เดือน |
ความดันโลหิตสูงระดับ 2 Stage 2 (moderate) | 160-179 | 100-109 | ให้พบแพทย์ใน 1 เดือน |
ความดันสูงระดับ3 (severe) | >= 180 | >= 110 |
|
ชนิดของความดันโลหิต
1.ความดันโลหิตตัวบนสูง Isolated Systolic Hypertension (ISH)เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ความยืดหยุ่นของผนั้งหลอดเลือดจะลดลง ทำให้ความดันตัวบน systolic มีค่าสูงขึ้นขณะที่ความดันตัวล่าง diastolic มีค่าปกติคือค่าความดันsystolic มากกว่า140 มม.ปรอท ส่วนค่าตัวล่าง diastolicน้อยกว่า 90 มม.ปรอท ช่องว่างระหว่างตัวบนและล่างกว้างขึ้น( systolic- diastolic) การรักษาขึ้นกับค่า systolicความดันโลหิตตัวบนสูง Isolated Systolic Hypertension (ISH) พบบ่อยแค่ไหนISH จะพบได้บ่อยเนื่องจากความดันโลหิตจะข้นตามอายุทั้งควานดัน systolic และ diastolic แต่ความดัน diastolic จะหยุดข้นเมื่ออายุ 5 ปีในขณะที่ความดัน systolic ยังคงเพิ่มมากขึ้น พบว่า ISH จะมีประมาณร้อยละ 65 ของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงของผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ผู้ที่เป็น ISH จะไม่มีอาการอะไรเราจะทราบโดยการวัดความดันโลหิตความดันโลหิตสูง ISH เป็นอันตรายหรือไม่โรคความดันทุกชนิดจะเป็นอันตรายต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด สมอง ไต ตาและหลอดเลือดที่เท้า หากไม่ได้รับการรักษา จากการศึกษาพบว่าการรักษาโรคความดันดลหิตสูง ISH จะลดการเกิดโรคแทรกซ้อน การรักษาโรคความดันโลหิตสูง ISH มีความยุงยากหรือไม่ การรักษาเหมือนกับการรักษาความดันโลหิตทั่วไปจะต้องประกอบไปด้วย
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
การใช้ยาลดความดันโลหิต
ISH of the Young เนื่องจากเด็กหรือวัยรุ่นมีการเจริญอย่างรวดเร็ว หลอดเลือดมีความยืดหยุ่นมากไม่เท่ากันระหว่างหลอดเลือดแดงใหญ่ และหลอดเลือดที่แขน ทำให้ความดัน systolic ที่แขนสูง ขณะที่ความดัน diastolic และค่าเฉลี่ยของความดันโลหิตปกติ(mean pressure)
2.Isolated Diastolic Hypertension (IDH)เป็นภาวะที่ความดัน diastolic มากกว่า 90 มม.ปรอทในขณะที่ความดัน systolic ปกติ โดยปกติหากค่า diastolic สูงต้องให้การรักษาเพราะเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของการเกิดโรคหัวใจ อัมพาต และไตวาย เมื่ออายุมากขึ้นความดัน diastolic จะลดลงแต่ความดัน systolicจะเพิ่มขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน แพทย์จะใช้ทั้ง systolic และ diastolic ในการพิจารณาให้การรักษา
3.White Coat Hypertension (WCH) or Isolated Office Hypertensionเป็นภาวะที่วัดความดันโลหิตที่บ้านมักจะต่ำกว่า 135/85 มม.ปรอท แต่เมื่อวัดความดันที่โรงพยาบาลมักจะมากกว่า 140/90 มม.ปรอท ภาวะนี้พบได้ประมาณร้อยละ 15 ของประชากร สำหรับคนที่เป็นความดันโลหิตสูงจะพบได้ประมาณหนึ่งในสาม ภาวะนี้มักจะเป็นในคนที่เริ่มเป็นความดันโลหิตสูง ผู้ที่มีความดันชนิด White Coat Hypertension (WCH) มักจะไม่ค่อยมีเรื่องอวัยวะเสียหาย คนปกติความดันโลหิตตอนกลางคืนจะต่ำกว่าเวลากลางวันประมาณร้อยละ 10 ผู้ที่เวลากลางคืนความดันลดลงน้อยกว่า 10 %เวลากลางวันจัดเป็น "non-dippers", ซึ่งจะสัมพันธ์กับโรคแทรกซ้อนภาวะนี้จะพบในคนกลุ่มใด
คนกลุ่มนี้อาจจะกลายเป็นความดันโลหิตสูงดังนั้นจึงต้องมั่นวัดความดันโลหิต และต้องตรวจว่ามีโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่ และต้องตรวจหาอวัยวะที่เสียหายจากความดันโลหิตสูงโดยที่ไม่เกิดอาการMasked Hypertension or Isolated Ambulatory Hypertension ภาวะนี้วัดความดันที่บ้านจะสูง แต่เมื่อวัดความดันที่โรงพยาบาลจะปกติ
4.Orthostatic or Postural Hypotensionเป็นภาวะที่ความดัน systolic ลดลง 20 มม.ปรอท ความดัน diastolic ลดลง 10 มม.ปรอทในขณะที่เปลี่ยนจากนอนเป็นยืน 3 นาที ปัญหาที่เกิดคือกลุ่นคนเหล่านี้อาจจะมีความดันโลหิตที่สูงมากในขณะที่นอน แต่วัดความดันท่านั่งหรือยืนปกติ
เมื่อท่านตรวจพบความดันโลหิตสูงถ้าไม่สูงมากอาจจะไม่จำเป็นต้องรับประทานยา อาจจะทานผัก ผลไม้ หรือพืชสมุนไพรที่ช่วยในการลดความดันโลหิต แต่หากสูงมากก็จำเป็นต้องรับประทานยา และสมุนไพรควบคู่กันไปให้ความดันโลหิตลด
การปรับพฤติกรรมเพื่อการควบคุมความดันโลหิต
ไม่ว่าคุณจะเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือกำลังจะสูงกล่าวคือหากคุณวัดความดันโลหิตได้ 140/90 มิลิเมตรปรอท คุณจำเป็นต้องรักษา ส่วนที่สำคัญของการรักษาคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการคำรงชีวิต การควบคุมอาหาร การควบคุมอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคไตมีจุดประสงค์เพื่อควบคุมระดับความดันโลหิต และชะลอการเสื่อมของโรคไต
การปรับเเปลี่ยนพฤติกรรม
อาหารสำหรับผู้ที่มีความดันโลหิตสูงหลักปฎิบัติง่ายๆ